About us

About us
Vision & Mission
Our Work

DHEVA LAB โดยบริษัท ทับเทวา ทัพไท จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2554 ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกาแฟมามากกว่า 10 ปี และประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ก่อตั้ง คุณแพรวา บุณยะวัน ที่มากเกือบ 20 ปี จึงทำให้เราได้กลายเป็นผู้ผลิต นำเข้า และผู้จัดจำหน่ายเมล็ดกาแฟทั้งเมล็ดดิบ และเมล็ดคั่ว แบบมืออาชีพ เชี่ยวชาญด้านกาแฟตั้งแต่การคัดเลือกกล้าพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การคัดคุณภาพ การจัดเก็บ และการแปรรูป ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมทั้งในระดับประเทศ และระดับสากลในปัจจุบัน

เราคลุกคลีอยู่กับเส้นทางกาแฟมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ด้วยเพราะเราเชื่อว่า กาแฟที่ดี 1 แก้ว ต้องเริ่มมาจากวัตถุดิบ ที่ดี ผู้ก่อตั้งบริษัทได้ร่วมมือกับทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชนในหลากหลายโครงการ เพื่อพัฒนา ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟ ส่งเสริม ช่วยเหลือ เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ โดยมีผลผลิตที่มากขึ้น ในพื้นที่แปลงปลูกที่เท่าเดิม จนกระทั่งต้นกาแฟจากหลายโครงการนั้นๆ เติบโตจนสามารถเก็บผลผลิตได้ เพื่อให้ผลกาแฟสุกดังกล่าวกลายเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เราจึงได้จัดตั้ง DHEVA LAB ขึ้นมา มีชื่อเต็มว่า “Dheva Specialty Coffee Lab” ภายใต้นามบริษัท ทับเทวาทัพไท จำกัด เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์และการเพาะปลูก ทดลอง ทดสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟ รวบรวมผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรภายใต้การส่งเสริมของเรา ให้เกษตรกรรวมกลุ่มในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน และนำมาคัดคุณภาพและแปรรูป ผ่านเครื่องมือที่ทันสมัย ก่อนการจำหน่ายสู่ท้องตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีจากทุกขั้นตอนการผลิต

ภายใต้การบริหารของคุณแพรวา บุณยะวัน บริษัท ทับเทวาทัพไท จำกัด ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดำเนินกิจการด้วยดีเสมอมาจนถึงปัจจุบัน และเราจะไม่หยุดยั้งในการพัฒนาตนเอง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตบนเส้นทางกาแฟของเรา

Dheva Farm & Specialty Coffee Lab กาแฟ เดวา กาแฟสาร สารกาแฟ กาแฟคั่ว

Vision & Mission

ปณิธาน SUPPORTING AND SHARING GOOD LIFE AND GOOD BEANS การสนับสนุน และการให้ คุณภาพชีวิตที่ดี คุณภาพเมล็ดที่ดี

1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการรรวมตัวกันของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในรูปแบบของ “วิสาหกิจชุมชน” เพื่อเป็นการเพิ่มอำนาจในการต่อรองของเกษตรกร โดยมีการลงนามในสัญญาซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร (Contract Farming)กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดังกล่าว

2. จัดการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเกษตรกรเรื่องกาแฟอย่างสม่ำเสมอ

3. จัดมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานของเกษตรกรในกลุ่ม เพื่อจะได้เป็นเมล็ดพันธุ์ทางทรัพยากรบุคคลที่ดีมีคุณภาพต่อไปในอนาคต

วิสัยทัศน์ เมล็ดกาแฟคุณภาพสู่ผู้บริโภคทั่วโลก Make high quality coffee beans to the coffee consumer around the wolrd.

พันธกิจ คัดสรรคุณภาพเมล็ด และแปรรูปเมล็ดกาแฟ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ส่งเสริมเกษตรกรไทยผู้ปลูกกาแฟให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมกับอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพออกสู่ผู้บริโภค

มุ่งสร้างสรรค์ธุรกิจกาแฟคุณภาพของไทย

ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เป็นบริษัทที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา
ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน

ภาคเอกชนหรือโรงงานเข้าไม่ถึงชาวบ้าน หรือจะเข้าถึงก็ส่วนน้อยและถ้าไม่มีการติดตามอย่างต่อเนื่องก็มักจะล้มเหลว เนื่องจากไม่มีคนในพื้นที่

ชาวบ้านก็ไม่สามารถตรงถึงโรงงานได้เนื่องจากไม่มีตัวเชื่อมที่เป็นธรรม
และขาดองค์ความรู้และบุคคลากรที่จะมาสอนเรื่องการปลูกและสนับสนุนปัจจัยต่างๆ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะผลิตของได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้คือโรงงานนั่นเอง

เราจึงสนับสนุนและส่งเสริมทั้งการศึกษาและความเป็นอยู่เพราะเป็นทางออกเดียวที่ชาวบ้านจะมีกำลังใจ ทำของดีเพื่อป้อนโรงงาน เพราะเมื่อทำแล้วสิ่งดี ๆ กลับมาพัฒนาชุมชน

นี่คือความสำเร็จของธุรกิจที่เรามองค่ะ

ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้เกิดความเข็มแข็งที่ยังยืน

Contracted Farm Territories

คนทำกาแฟส่วนใหญ่ทำเพราะกาแฟราคาดีกว่าพืชชนิดอื่น แต่ความรู้เรื่องกาแฟยังต้องได้รับการส่งเสริม เรื่องของคุณภาพและแรงบันดาลใจในการทำยังต้องรณรงค์กันต่อไป

เราจึงให้ชาวบ้านรวมตัวก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกาแฟ เราคุยกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) รับรองกลุ่มวิสาหกิจผู้ปลูกกาแฟทั้งหมด และทำสัญญากับผู้ปลูก Contract Farming เพื่อรับซื้อผลผลิต

สนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวของกาแฟให้กับชุมชน

เราทำการสนับสนุนเกษตรกรอย่างยั่งยืน ด้วยการเข้าไปสนับสนุนความรู้เกี่ยวกับกาแฟในด้านต่างๆ

ทั้งในด้านการเพาะปลูก,การดูแลรักษาผลผลิต

การเก็บเกี่ยว

กรรมวิธีการผลิต รวมถึงกระบวนการแปรรูปรวมถึงการสอนให้มีการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่เพาะปลูก

การดูแลรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำ

การปรับปรุงคุณภาพชุมชม และการลดการใช้สารเคมี เพื่อให้ผลผลิตที่ออกมา มีคุณภาพดีที่สุด

Upload Image...

ต้นไม้ใหญ่จะเป็นผลดีต่อต้นกาแฟไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรืออ้อม

เมื่อออกดอกผลแม้แต่ฝัก ใบ หล่นลงสู่พื้นดินจะเป็นปุ๋ยให้ต้นกาแฟต่อไป

เคมีจะถูกใช้น้อยลงเรื่อยๆ เพราะดินดี

เกษตรกรอยากได้ราคาดีจะมาช่วยกันปลูกต้นไม้นะคะ
เพราะต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นเพื่อปลูกกาแฟกันเยอะค่ะ

เราสัญญาจะให้ราคาดี…. กับชาวบ้านที่ปลูกต้นใหญ่แซม

เราให้ทุนการศึกษาแก่บุตรหลานเกษตรกร

เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้ต่ำเราจึงเล็งเห็นว่าการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเราจึงทำการแจกทุนการศึกษาให้แก่บุตรหลานของเกษตรกรเป็นประจำทุกปี

การรับผิดชอบต่อลูกค้า

เรายินดีรับ claim ของ ในกรณีที่กาแฟกระสอบไหนคุณภาพไม่ตรงตามที่ตกลงซื้อ เราคืนเป็นของใหม่ตามน้ำหนักของกาแฟที่เสียหาย ไม่ว่าคุณจะตรวจสอบพบเวลาไหนตามและกระสอบทุกใบจะทำการกำหนด cordไว้ สำหรับกรณีเมื่อสินค้ามีปัญหา ทำให้สามารถสอบกลับเพื่อตรวจสอบถึง
แปลงปลูก แหล่งที่มาของกาแฟและนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขคุณภาพต่อไป

การทำงานของเรา

การเตรียมต้นกล้าของเรา…

1 . ใช้เมล็ดพันธุ์ดีที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ มีอัตราการงอกและทนทานต่อโรคสูง เมล็ดต้องไม่เก็บไว้เกิน 6 เดือน

2 . ระยะหัวไม้ขีด (ใช้ระยะเวลาดูแลรักษา 1 เดือน – 1 เดือนครึ่ง)

3 . ระยะการเจริญเติบโตของต้นกล้าที่สมบูรณ์ของเราก่อนที่เราจะทำการถอนต้นกล้าที่มีอายุเหมาะสม เพื่อพร้อมที่จะนำไปลงปลูกในถุงพลาสติกต่อไป ระวังอย่าให้ต้นกล้ามีอายุมาก จะทำให้รากยาวเกินไปจนทำให้รากม้วนงอในถุงปลูก เมื่อนำลงดินโอกาสรอดต่ำกว่าปกติ

ลักษณะของต้นกล้าที่ดีของเรา

ต้นกล้าที่ปลูกอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ ที่มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เป็นระยะเวลา 8 – 12 เดือน
ต้นกล้าของเราจะต้องมีลักษณะต้นตรง แข็งแรง ทุกข้อมีใบอยู่ครบ ไม่มีโรคและแมลงเข้าทำลาย
มีความสูงประมาณ 45 ซม. (มีใบ 6-8 คู่)

การดูรักษาต้นกาแฟของเรา

ตัวอย่างไร่กาแฟของเราหลังจากที่ได้ทำการปลูกลงดินไปแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี

เราจะทำการกำจัดวัชพืชอยู่เป็นประจำ ในระยะ 50 ซม – 80 ซม. รอบๆต้นกาแฟ ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆที่เกี่ยวกับกาแฟและทำให้ต้นกาแฟเจริญเติบโตได้ดี

เราจะทำการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้นงดการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของดินที่ใช้ปลูกกาแฟให้ปลอดสารพิษ

กาแฟเชอรี่

ขั้นตอนสำคัญ..อยู่ที่กระบวนการเก็บผลสุกแล้วทำอย่างไรให้อยู่ในถ้วยแล้วได้กลิ่นของความหอมตามบอดี้ของกาแฟที่เค้าเป็น

ตัวแปลต่างๆ …. คุมได้ยาก
ตอนล้างตอนหมักกาแฟมันยุ่งยากและก็ใช้กำลังคนบวกกับแข่งกับเวลา เพื่อกันเชอรี่บูดเสีย เชอรี่ก็เหมือนผลไม้สุกจัดที่พร้อมจะเสียเน่าอยู่ตลอดเวลาจะขึ้นราทันทีที่เค้าถูกเก็บและหมักไว้รวมกัน ด้วยว่าความหวานในตัวจะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่ายค่ะ

ด้วยเหตุนี้ …จะปลูกในที่ดินเดียวกัน ใช้ปุ๋ยยี่ห้อเดียวกัน ขึ้นอยู่กับขั้นตอนในช่วงเวลาตรงนี้
หากทางโรงงานตรวจสอบเชิงลึกก็จะทราบว่า

กาแฟที่ไม่มี” รา ” นั้นให้ความหอมและอร่อยกว่ามาก

การทำสารกาแฟของเรา

เราจะทำการเก็บเฉพาะผลกาแฟที่สุกพอดีเท่านั้น จะไม่ทำการเก็บแบบรูดทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ผลกาแฟที่ได้มีคุณภาพดีกว่า
เราจะทำการคัดผลกาแฟที่สุกกำลังดีและแยกสายพันธุ์ (อาทิเช่น yellow catimor เป็นต้น) จากผู้ที่มีประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
เราจะนำผลกาแฟที่ทำการคัดเรียบร้อยแล้ว มาทำการลอยน้ำ เพื่อตรวจสอบถึงคุณภาพของผลกาแฟเราได้มาหากผลกาแฟผลไหนลอยน้ำ เราจะทำการคัดแยกออก เพื่อให้ผลกาแฟที่ได้มีคุณภาพดีที่สุด

เมล็ดด้านซ้ายคือเมล็ดที่สุกเต็มที่ จะทำให้กาแฟมีคุณภาพดี ส่วนด้านขวาคือเมล็ดที่ยังไม่สุกเต็มที่ต้องคัดออก เพราะเป็นเมล็ดที่ยังไม่ได้คุณภาพ
เมล็ดด้านบน คือ เมล็ดที่ผ่านกระบวนการปลอกเปือกในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ส่วนเมล็ดด้านล่าง คือ เมล็ดที่ผ่านกระบวนการปลอกเปือกช้าเกิน 24 ชั่วโมง ทำให้เมล็ดเริ่มเน่าเสีย มีสีคล้ำและ มีกลิ่นเหม็นติดมา

กระบวนการปลอกเปลือกผลกาแฟ

หลังจากนั้น เราจะทำการนำผลกาแฟที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว มาทำการปอกเปลือกออกเพื่อให้กลายเป็นกาแฟกะลา โดยเราจะทำภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อป้องกันการบูดเน่าของเนื้อกาแฟ จึงทำให้ผลกาแฟมีคุณภาพดีทั้งรสและกลิ่น

กระบวนการล้างเมือก

เราจะทำการล้างเมือกก่อนนำไปที่จะนำกะลากาแฟไปหมักเมือกในบ่อซีเมนต์ และทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 36 – 72 ชั่วโมง ตามสภาพภูมิอากาศและเราจะทำการล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนที่จะนำไปตาก เพื่อให้รสชาดของกาแฟมีกลิ่นและรสที่สะอาดยิ่งขึ้น

กระบวนการตากเมล็ดกาแฟ

เราจะนำกะลากาแฟที่ผ่านการล้างเมือกแล้ว มาตากบนลานตากของเรา โดยจะมีทั้งลานตากที่เป็นลานซีเมนต์ที่มีอายุเกิน 3 ปี ซึ่งหมดกลิ่นของปูนซีเมนต์แล้ว ทำให้ไม่มีกลิ่นปูนซีเมนต์ติดกาแฟของเรามา
และ ลานตากแบบเป็นแคร่ยกสูง เพื่อทำให้การระบายอากาศระบายความชื้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเราจะทำการตาก 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงเวลานั้น
กะลากาแฟที่ผ่านการตากอย่างถูกต้อง จะมีความชื้นไม่เกิน 7% และมีเศษสิ่งเจือปนน้อย มีสีสะอาด ทำให้กลิ่นและรสมีคุณภาพดี

การคัดคุณภาพสารกาแฟ

ก่อนที่สารกาแฟจะพร้อมบรรจุถุงนั้น จะต้องมาเข้าเครื่องคัดเกรด คัดคุณภาพเมล็ดอีกครั้ง และยังนำมาคัดด้วยมือ เพื่อคัดแยก เมล็ดที่ไม่สมบูรณ์หรือบกพร่องอีกครั้ง หลังจากทำการสีเอากะลาออก เพื่อคัดเมล็ดที่ไม่ผ่านคุณภาพออกไป

การตรวจสอบคุณภาพก่อนส่ง และการส่งมอบสินค้า

เราจะเก็บรักษาสารกาแฟให้สะอาดและมีอุณหภูมิที่เหมาะสม กระสอบป่านทุกใบจะทำการตรวจสอบความสะอาดก่อนบรรจุทุกครั้ง
สำหรับการขนส่ง เราเลือกใช้รถตู้ทึบเท่านั้นเพื่อป้องกัความชื้นระหว่างทาง และเลือกบริษัทขนส่งที่ทำความสะอาดรถ ขนส่งเพื่อขจัดกลิ่นแปลกปลอมก่อนขนเมล็ดกาแฟของเราไปยังปลายทางตรงเวลา

กระบวนการแปรรูปเมล็ดกาแฟแบบเปียกของเรา

ธุรกิจของเรา

1. รับซื้อผลผลิตกาแฟทั้ง ผลกาแฟสุก(Cherry Coffee) กะลากาแฟ (Parchments) และ สารกาแฟ (Green Beans) จากกลุ่มเกษตรกร หรือจากเกษตรจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย (Cherry Coffee)

2. คัดคุณภาพเมล็ดกาแฟจากเครื่องจักรคัดคุณภาพเมล็ดที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูง ทั้งโรงสีเปียก(WET MILL) และโรงสีแห้ง (DRY MILL)

2.1 โรงสีเปียกตามมาตรฐานสากล เครื่องสีผลกาแฟสุกคุณภาพสูง ตากกาแฟในสถานที่ที่สะอาด ถูกสุขอนามัย เก็บรักษาในโกดังที่แห้ง ไม่เปียกชื้นเพื่อรักษาคุณภาพเมล็ดให้ดีที่สุด และยาวนานที่สุด

2.2โรงสีแห้ง มีการคัดคุณภาพดังนี้

- เครื่องคัดหิน
- เครื่องคัดขนาด
- เครื่องคัดเมล็ดลีบ และเบา
- เครื่องคัดโลหะและสิ่งเจือปนอื่นที่ไม่ใช่กาแฟ
- เครื่องคัดสี (Roasted Beans)

3. คั่วเมล็ดกาแฟจากสารกาแฟที่มีการคัดคุณภาพในทุกขั้นตอน ในห้องคั่วเมล็ดกาแฟ (Roasting Room) ที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น มาตรการตามหลักการขององค์การอาหารและยา (อย.) มาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน GMP และมาตรฐาน HACCP

บริการของเรา

1. รับซื้อผลกาแฟสุก (Cherry Coffee)

2. รับซื้อกะลากาแฟ (Parchment Coffee)

3. รับซื้อสารกาแฟ (Green Bean Coffee)

4. เมล็ดกาแฟคั่ว (Roasted Beans)

ผลิตภัณฑ์ของเรา

1. สารกาแฟคุณภาพ (Green Beans)

2. เมล็ดกาแฟคั่ว (Roasted Beans) (Parchment Coffee)

จุดเด่นของเรา DHEVA

ความมั่นคงทางคลังสินค้า

- จัดซื้อสินค้าเข้าสู่คลังสินค้าตั้งแต่ต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว จึงทำให้เมล็ดกาแฟในโกดังเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ สดใหม่ และเนื่องจากกาแฟเป็นพืชผลทางการเกษตรที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ดังนั้นจึงได้มีการวางแผนการจัดซื้อที่ละเอียด รอบคอบ ส่งผลให้ DHEVA มีเมล็ดกาแฟใช้ตลอดทั้งปี เพียงพอต่อการจำหน่าย และแปรรูปให้แก่ลูกค้า ในห้วงปี พ.ศ.2563-จนถึงปัจจุบัน คลังสินค้าของ DHEVA ได้ทำการจัดซื้อเมล็ดกาแฟในปริมาณมากถึง 4,000-5,000 ตันต่อปีในกาแฟสายพันธุ์อราบิก้า(Arabica) และ 2,000 ตันต่อปีในกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า(Robusta)

มีเมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกที่มีคุณภาพที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้เมล็ดกาแฟของ DHEVA มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของตลาดชั้นนำ อีกทั้ง DHEVA ยังมีเกษตรกรที่เพาะปลูกกาแฟตามมาตรฐาน 4C อีกจำนวนถึง 1,500 ราย ส่งผลให้ DHEVA มีเมล็ดกาแฟ 4C ที่เป็นมาตรฐานสากลในจำนวนที่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งปี
กระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล โรงคั่วกาแฟขนาดใหญ่ กำลังการผลิตสูงสุดของเครื่องคั่ว 1,000 ตัน/ปี

ห้องปฏิบัติการ （Laboratory）

มีการทดสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟในห้องปฏิบัติการ โดย Q-Grader Arabica และ Q-Grader Robusta เพื่อรักษา และพัฒนาคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน “DHEVA ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง”